งานติดตั้งระบบไฟฟ้ามักเจอปัญหาสาย VCT แตก ต้องเปลี่ยนบ่อย หรือต่อแล้วร้อน เพราะถ้าสายไฟ VCT ถูกใช้เหมือนสายไฟทั่วไป ผลลัพธ์ที่ได้คือปัญหาซ่อมซ้ำและความเสี่ยงต่อระบบไฟฟ้า แล้วมีทางป้องกันแบบที่ใช้งานจริงแล้วเห็นผลจริงหรือไม่ ?
- เลือกตามสภาพงาน ไม่ใช่แค่หน้าตัด
การเลือกสายไฟ VCT ควรพิจารณาสภาพแวดล้อม (ความร้อน ความชื้น การเสียดสี) และลักษณะการเคลื่อนไหวของสายในงาน ตัวอย่างเช่น งานที่ต้องเลื่อนบ่อย ควรเลือกสายที่มีฉนวนทนการเสียดสีสูงและแกนทองแดงที่ยืดหยุ่น เป็นการลดแรงดึงที่ปลายต่อและลดการแตกหักภายใน
- เทคนิคการยึดและผ่อนแรงจุดต่อ
จุดต่อเป็นจุดอ่อนสุด อย่ายึดสายตรงกับขั้วโดยไม่ใส่ Strain Relief หรือบล็อกจับสาย การม้วนเผื่อความยาวเล็กน้อย และใช้คลิปยึดเป็นระยะ ช่วยกระจายแรงและลดความเครียดที่ขั้วต่อ ซึ่งลดการสึกหรอของฉนวนและการเกิดความร้อน
- การต่อ-บัดกรีที่ช่างใช้จริง
การบัดกรีหรือใช้ขั้วต่อ ต้องคำนึงถึงการลอกฉนวนที่พอดีและการบีบสกรูให้แน่นพอ แต่ไม่บีบจนทำให้แกนทองแดงเสียรูป การใช้เทปหุ้มหลังการต่อช่วยป้องกันความชื้นและเพิ่มความแข็งแรงเชิงกลได้
- ตรวจวัดเชิงคาดการณ์ก่อนปัญหาเกิด
นอกจากตรวจแรงดันและกระแสแล้ว การตรวจความต้านทานต่อการเคลื่อนไหว (Flex Test) และตรวจจุดร้อนด้วยกล้องอินฟราเรดในงานที่มีโหลดหนัก จะช่วยจับสัญญาณเตือนก่อนสายจะล้มเหลว
การใช้งานสายไฟ VCT ดีต้องมองทั้งการเลือก วางทางเดิน การยึดต่อ และการตรวจเช็กเชิงป้องกัน นี่คือแนวปฏิบัติที่เห็นผลในหน้างานจริงและลดปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน