ประกันสุขภาพ สำหรับลูกวัยเรียนถือเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรต้องทำ เพราะเด็กในวัยนี้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุค่อนข้างสูง ทั้งจากการทำกิจกรรมในโรงเรียน การเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมนอกบ้านต่างๆ ทำให้การมีประกันสุขภาพสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ปกครองได้อย่างมาก ซึ่งเรามีแนวทางเลือกซื้อประกันให้ลูกมาฝาก
การเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะสมกับลูกวัยเรียนนั้น มีปัจจัยที่ควรพิจารณาหลายประการ ดังนี้
อันดับแรกคือความคุ้มครองการรักษาพยาบาลผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งควรมีวงเงินเพียงพอสำหรับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน โดยทั่วไปควรมีวงเงินไม่ต่ำกว่า 500,000 บาทต่อปี ครอบคลุมค่าห้อง ค่ายา ค่าหมอ และค่าผ่าตัดต่างๆ
นอกจากนี้ ควรพิจารณาความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยนอก (OPD) ด้วย เนื่องจากเด็กวัยเรียนมักมีอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ บ่อยครั้ง เช่น ไข้หวัด ท้องเสีย หรือบาดแผลจากอุบัติเหตุเล็กน้อย การมีความคุ้มครอง OPD จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการพบแพทย์แต่ละครั้ง โดยควรเลือกแผนที่มีจำนวนครั้งการรักษาต่อปีที่เพียงพอ และวงเงินต่อครั้งที่เหมาะสม
ประกันสุขภาพที่ดีสำหรับเด็กวัยเรียนควรครอบคลุมการรักษาทันตกรรมด้วย เนื่องจากเป็นวัยที่ฟันแท้กำลังขึ้น การดูแลสุขภาพช่องปากจึงมีความสำคัญ แผนประกันควรครอบคลุมค่าถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และการรักษาทันตกรรมพื้นฐานอื่นๆ
อีกหนึ่งความคุ้มครองที่สำคัญคือการประกันอุบัติเหตุ ควรมีทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุและเงินชดเชยกรณีทุพพลภาพ เนื่องจากเด็กวัยเรียนมักมีกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การเล่นกีฬา การทำกิจกรรมนอกสถานที่ หรือการเดินทางไปโรงเรียน
ประกันสุขภาพบางแผนยังมีความคุ้มครองพิเศษที่น่าสนใจ เช่น ค่าเดินทางฉุกเฉินทางการแพทย์ การรักษาโรคร้ายแรง หรือการรักษาแบบผู้ป่วยนอกหลังการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ปกครองควรพิจารณาตามความเหมาะสมและความจำเป็น
นอกจากความคุ้มครองแล้ว ยังควรพิจารณาเรื่องเบี้ยประกันที่ต้องจ่าย ระยะเวลารอคอย เงื่อนไขการเรียกร้องค่าสินไหม และเครือข่ายโรงพยาบาลที่สามารถใช้บริการได้ บางบริษัทมีบริการ Cashless ที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ปกครองมาก
การเลือกประกันสุขภาพ ให้ลูกวัยเรียนนั้น ควรพิจารณาให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความเสี่ยงของเด็ก รวมถึงความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกันของผู้ปกครอง แนะนำให้เปรียบเทียบแผนประกันจากหลายบริษัท และอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ได้แผนประกันที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด
การทำประกันให้ลูกตั้งแต่วัยเรียนยังมีข้อดีคือเบี้ยประกันจะถูกกว่าการทำตอนอายุมากขึ้น และหากทำแบบประกันสุขภาพแบบต่ออายุตลอดชีพ ก็จะได้ความคุ้มครองต่อเนื่องไปในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถูกปฏิเสธต่ออายุกรมธรรม์เมื่อมีประวัติการเจ็บป่วย